ผีสาวปากฉีก คุชิซาเกะ อนนะ

ตำนานถิ่น : ญี่ปุ่น

สาวปากฉีกในตำนานเป็นที่รำลือกันในปี ค.ศ.1979 ซึ่งมีข่าวการฆาตกรรมและการหายตัวไปของเด็กอย่างลึกลับ โดยพยานที่รอดออกมาได้ได้เล่าให้ฟังว่า มีผู้หญิงผมยาวคนหนึ่งในเสื้อโค้ทและสวมผ้าปิดปาก (ในสังคมญี่ปุ่นการสวมผ้าปิดปากถือว่าเป็นเรื่องปกติในการป้องกันเชื้อโรคในอากาศ) โดยเธอจะเลือกเหยื่อที่เป็นเด็กหรือไม่ก็ผู้ชาย ซึ่งเธอจะถามเหยื่อว่า “ ฉันสวยไหม? ” ในขณะที่ผู้ถูกถามยังงุนงงไม่ทันได้ตอบ เธอก็จะดึงผ้าปิดปากออก เผยให้เห็นแผลเหวอะหวะที่มุมปากทั้งสองข้างยาวมาถึงหู โดยหากเหยื่อตอบว่า “ สวย ” เธอก็จะใช้กรรไกรมอบรอยยิ้มที่ฉีกกว้างให้เหมือนกับเธอ ซึ่งหากเหยื่อตอบว่า “ ไม่สวย ” เธอก็จะโกรธและใช้กรรไกรตัดเหยื่อขาด 2 นอกจากนั้นหากเหยื่อคิดที่จะวิ่งหนีก็ไม่สามารถหนีรอดเธอไปได้เช่นกัน

ทั้งนี้ในวิธีที่จะหนีรอดจากสาวปากฉีกในตำนานมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 วิธี

วิธีแรกคือให้โยนลูกกวาดให้ลงพื้น ซึ่งเธอจะหยุดและเก็บลูกกวาดเหล่านั้น

วิธีที่สองให้พูดคำว่า “ โพมาโดะ ” ซึ่งแปลว่า “ น้ำมันใส่ผม ” 3 ครั้ง และเธอก็หนีไปเอง

วิธีสุดท้าย เมื่อเธอถามว่า “ ฉันสวยไหม? ” ให้ตอบกลับไปว่า “ ก็งั้นๆ ” หรือ “ ก็ปกติดีนี่ ” ซึ่งจะทำให้เธอสับสนงุนงง เปิดโอกาสให้เหยื่อหนีไปได้

จุดกำเนิดของสาวปากฉีกเกี่ยวข้องกับยุคเฮอัง (ปีค.ศ.794-1185) มีความเชื่อว่าเธอเป็นภรรยาที่มากไปด้วยความสวย จนสามีที่เป็นซามูไรของเธอหึงหวงมากเป็นพิเศษ และครั้งหนึ่งเกิดความเข้าใจผิดซามูไรได้ใช้ดาบเฉือนปากเธอจนเกือบถึงหูและพูดว่า
“ ดูสิว่าตอนนี้ใครจะคิดว่าเธอสวยอีก!? ”
ด้วยความโศกเศร้าของเธอที่ต้องเสียโฉม เธอรับความจริงไม่ได้และฆ่าตัวตายในที่สุด