ผีเด็กในอพาร์ทเมนท์

ผีเด็กในอพาร์ทเมนท์ กับเหตุการณ์หลอนๆ

อดัมได้ทวิตข้อความชวนหลอนเอาไว้ว่า อพาร์ทเมนท์ของเขากำลังถูกหลอกหลอนโดยผีของเด็กที่ตายไปแล้ว แถมผีเด็กยังพยายามจะฆ่าเขาอีกด้วย

เริ่มจากผีเด็กที่ปรากฏตัวในฝัน แต่ตอนนี้อดัมคิดว่าเขาได้ก้าวข้ามเข้ามายังโลกจริงแล้ว โดยครั้งแรกที่อดัมเห็นเขา อดัมกำลังรู้สึกเหมือนโดนผีอำ และเห็นผีเด็กกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้โยกสีเขียวที่ปลายเตียงของเขา (ตอนนี้ถูกย้ายออกมาที่ห้องนั่งเล่นแล้ว)

อดัมกล่าวว่า ผีเด็กดังกล่าวมีรอยแหว่งที่ศีรษะขนาดใหญ่ ซึ่งเขาได้พยายามวาดภาพของผีเด็กตนนั้นออกมาให้ทุกคนได้เห็น

ผีเด็กปรากฏอยู่ที่ปลายเตียงและจ้องมองอดัม หลังจากนั้นผีเด็กก็ลุกออกจากเก้าอี้แล้วเดินงุ่มง่ามตรงมาหาเขาที่เตียง แต่ยังไม่ทันถึงเตียงดี อดัมก็สะดุ้งตื่นและกรีดร้องอย่างหนัก นั่นเป็นครั้งแรกที่อดัมฝันถึงผีเด็กตนดังกล่าว

ไม่กี่คืนถัดมา อดัมฝันอีกครั้ง คราวนี้เขาอยู่ในห้องสมุดกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเธอถามเขาว่า “คุณเห็นเดวิดแล้วใช่ไหม?” อดัมจึงถามกลับไปว่า “ใคร?” และเขาก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า “เดวิดที่รักไง คุณเห็นเขาแล้ว เขาตายแล้ว เขาจะปรากฏตัวเฉพาะตอนเที่ยงคืนเท่านั้น และถ้าคุณเรียกเขาว่า ‘เดวิดที่รัก’ คุณก็สามารถถามเขาได้ 2 คำถาม แต่อย่าพยายามถามคำถามที่ 3 ไม่เช่นนั้นเขาจะฆ่าคุณ”

หลังจากนั้น อดัมก็กลับมาฝันถึงเดวิดจนได้ ในฝันครั้งนี้เขากลับมานอนอยู่บนเตียง และเดวิดก็กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวเดิมใกล้หน้าต่าง คราวนี้อดัมตัดสินใจถามเดวิดว่า “เดวิดที่รัก คุณเป็นอะไรตาย?” และเดวิดก็ตอบว่า “อุบัติเหตุในห้องเก็บของ”

อดัมถามกลับไปว่า “เดวิดที่รัก เกิดอะไรขึ้นในห้องเก็บของ” เขาทำเสียงคร่ำครวญพร้อมตอบว่า “ชั้นวางของตกใส่หัวของผม” และด้วยความปากไว อดัมจึงถามกลับไปทันทีว่า “ใครผลักชั้นวางของ” คราวนี้เดวิดไม่ตอบ อดัมเพิ่งนึกได้ว่าเขาเพิ่งถามคำถามที่ 3 ไปซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่ควรทำ มาถึงจุดนี้แล้วเขาสะดุ้งตื่นพร้อมกับความกลัวที่ถาโถมเข้ามาอย่างเต็มที่

ไม่กี่วันถัดมา อดัมลองค้นหากูเกิ้ลดูเกี่ยวกับการเสียชีวิตในเมือง แต่ก็ไม่พบเด็กที่ชื่อเดวิดเสียชีวิตในห้องเก็บของ เขาลองค้นหาชื่ออื่นๆ ที่คล้ายกันอย่างเช่น ดาเนียล, ดีแลน, เดวอน แต่ก็ไม่พบความคืบหน้าใดๆ เพิ่มเติม

อดัมเริ่มค้นหาที่อยู่ใหม่ ซึ่งเขาพบว่ามีอพาร์ทเมนท์ชั้นบนของเขาที่ว่างอยู่ และเขาก็ได้ย้ายขึ้นไปยังอพาร์ทเมนท์ที่ใหญ่กว่าเดิม จนกระทั่ง 1-2 เดือนต่อมา ไม่มีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นอีก จนกระทั่งอดัมลืมเรื่องของเดวิดไปแล้ว ซึ่งเขาคิดว่ามันเป็นเพราะเขาย้ายขึ้นมาชั้นบน

แต่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เพราะจู่ๆ เหตุการณ์แปลกๆ ก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง เริ่มจากแมวของอดัมเริ่มมาป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณหน้าประตูตอนเวลาเที่ยงคืน และจ้องมันอยู่แบบนั้นราวกับว่ามีอะไรอยู่อีกฝั่งหนึ่ง โดยเหตุการณ์แปลกๆ นี้เกิดขึ้นถึง 4 คืนติดต่อกัน

จนคืนหนึ่ง อดัมรู้สึกแปลกๆ และเขาก็จ้องมองผ่านตาแมวออกไป หัวใจของเขาแทบหลุดไปอยู่ที่ตาตุ่ม เพราะเขาเห็นว่ามีอะไรเคลื่อนไหวอยู่ที่อีกฝั่งของประตู และเมื่อเขาเปิดประตูออกก็ไม่มีใครอยู่ที่ทางเดินเลย ส่วนแมวของเขาก็ดูเหมือนกำลังกลัวอะไรบางอย่าง

และอีก 6 คืนต่อมา แมวของเขาจะป้วนเปี้ยนอยู่หน้าประตูทุกๆ เที่ยงคืน และคอยจ้องมองดูอยู่แบบนั้น โดยที่เขาเองก็ไม่รู้เหตุผลว่าทำไม

นี่คือภาพถ่ายจากตาแมวห้องของเขา 2 ภาพ และอดัมสงสัยว่ามีอะไรในภาพถ่ายตาแมวหรือเปล่า หรือมันเป็นเพียงแค่รอยเปื้อนเท่านั้น

อดัมล็อคประตูและกลับไปนอนที่เตียง เขาไม่รู้จะทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้ดี และเขาก็ยังคงได้ยินแมวของเขาร้องเหมียวๆ อยู่ที่ประตูตอนเที่ยงคืนตลอดเวลา

มีคำแนะนำมากมายจากชาวเน็ต อดัมเริ่มทดลองอัดเสียงดูและพบว่า มีเสียงแปลกๆ คล้ายกับเสียงของคลื่นไฟฟ้า เกิดขึ้นในช่วงประมาณตี 2 ถึงตี 3 และเขาก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่ามันคือเสียงอะไร

ต่อมา อดัมได้ซื้อกล้องโพลารอยด์มาเพื่อทดลองอะไรบางอย่าง และเขาก็ตัดสินใจถ่ายภาพรอบๆ อพาร์ทเมนท์ของเขา

และแล้วก็มีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นเพราะภาพบริเวณทางเดินด้านนอกที่เขาถ่าย กลับกลายเป็นสีดำสนิททั้งภาพ

เขาคิดว่าน่าจะเกิดอะไรผิดพลาดอย่างเช่นนิ้วมือเผลอไปปิดเลนส์ ซึ่งเขาได้ลองถ่ายภาพที่ทางเดินด้านนอกอีกรอบในเวลาหลังเที่ยงคืน คราวนี้เขาได้ภาพที่ดำสนิทยิ่งกว่าเดิม (ด้านขวา)

จากภาพด้านบน มีคนตาดีสังเกตว่า บริเวณด้านซ้ายของภาพ มีใบหน้าแปลกๆ ปรากฏอยู่ ทำเอาคนอื่นๆ คนลุกไปตามๆ กัน

ส่วนภาพถ่ายในห้องนั่งเล่นและห้องนอนของเขายังปกติดี ไม่มีอะไรแปลกแต่อย่างใด

มีชาวเน็ตแนะนำให้เขาลองถอยออกมาถ่ายภาพให้ไกลขึ้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าขนลุกยิ่งกว่าเดิม โดยภาพนี้เป็นภาพที่ถ่ายจากกล้องมือถือ

ส่วนภาพนี้เป็นภาพที่ถ่ายจากกล้องโพลารอยด์ ซึ่งคุณจะเห็นว่า ภาพทางเดินด้านนอกที่ถูกถ่ายจากกล้องพาลารอยด์ก็ยังคงดำสนิทอยู่ดี

เมื่อหมดที่พึ่งใดๆ อดัมจึงลองใช้แนวทางใหม่ๆ ด้วยการหากำยานมาจุดไล่ผี เขาเดินไปทั่วห้องไม่ว่าจะเป็นทางเดินด้านนอก ในห้องนั่งเล่น และห้องนอน

แต่ดูเหมือนว่านี่จะไม่ได้ผลแถมยังทำให้สถานการณ์เลวร้ายกว่าเดิม เพราะหลังจากที่อดัมไม่ได้ฝันถึงเดวิดมา 2 เดือน เดวิดกลับมาปรากฏในฝันของเขาอีกครั้ง ในฝันคราวนี้เขานอนอยู่บนเตียงที่เต็มไปด้วยควัน แต่อดัมก็ยังคงเห็นเดวิดนั่งอยู่บนเก้าอี้สีเขียวตัวเดิม เดวิดไม่พูดคำใดๆ ออกมา มีแต่เพียงการจ้องมองมาที่เขาเท่านั้น

หลังจากนั้นเขาก็ฝันถึงเดวิดอีก มารอบนี้เดวิดกระชากเขาลงมาจากเตียง เขาไม่แน่ใจว่าทำไมตัวเองถึงไม่ต่อสู้กลับไป แต่หลังจากที่อดัมตื่นนอนมา เขาก็พบรอยช้ำบริเวณแขนของตัวเอง

วันต่อมา หลังจากที่เขาไปดื่มกาแฟแถวที่พัก เขาได้สังเกตเห็นโกดังสินค้าแห่งหนึ่งกลายเป็นที่รกร้าง อดัมอาศัยอยู่แถวนี้มา 4 ปี และตลอดเวลาเขาเห็นคนงานแพ็คของขึ้นรถเข็นอยู่ตลอดเวลา

เขาเดินสำรวจในโกดังสินค้าแห่งนี้เพื่อฆ่าเวลา และสิ่งเดียวที่เขาพบว่ามีสินค้าที่เป็นเก้าอี้เพียงตัวเดียวเท่านั้น ที่ยังเหลืออยู่ในโกดังแห่งนี้ (อดัมคิดไปว่า ห้องเก็บของที่เดวิดพูด อาจหมายถึงโกดังสินค้า และเก้าอี้ที่เขาเห็นก็อาจมีความเชื่อมโยงกันกับเก้าอี้สีเขียวของเขา)

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากเบอร์ที่ไม่ปรากฏในช่วงเวลาประมาณ 10.30 น. แต่นั่นไม่ใช่เพียงครั้งแรกที่เขาได้รับการโทรมาจากใครก็ไม่รู้หลายครั้ง เขากดรับเบอร์นี้เพียงครั้งเดียวและสิ่งที่เขาได้ยินก็คือเสียงแปลกๆ คล้ายเสียงคลื่นไฟฟ้า เหมือนกับที่เขาได้อัดเสียงเอาไว้ตอนนอน ซึ่งเสียงประหลาดนี้ดังอยู่ประมาณ 1 นาทีก่อนที่จะเงียบไป

อดัมยังคงฟังต่อไปจนกระทั่งได้ยินเสียงคล้ายลมหายใจ จนกระทั่งเขาได้ยินเสียงที่เล็กมากๆ กระซิบมาว่า “ฮัลโหล” อดัมกลับไปยังอพาร์ทเมนท์ของเขา ปิดม่านทั้งหมดพร้อมกับเปิดไฟทุกดวง เขานั่นดูทีวีจนถึงเช้าจนกระทั่งสติเกือบหลุดด้วยความอ่อนเพลีย

ต่อมา เขาซื้อกล้องที่ติดไว้สำหรับดูความเคลื่อนไหวของสัตว์เลี้ยง และตรวจสอบความเคลื่อนไหวผ่านแอพได้เวลาที่เขาไม่อยู่บ้าน แต่นั่นกลับทำให้เขาหลอนยิ่งกว่าเดิม เพราะเขาได้รับข้อความจากแอพว่ากล้องจับความเคลื่อนไหวและเสียงได้ และเมื่อเขาตรวจดูมันกลับไม่ใช่แมวของเขา ลองสังเกตเก้าอี้สีเขียวของเขาดูให้ดี

และอีกครั้งที่แอพเตือนขึ้นมาพร้อมกับระบุว่ามีการจับความเคลื่อนไหวบางอย่างได้ ซึ่งเขาเปิดกล้องดูและต้องดูถึง 3 รอบก่อนจะพบว่า กระดองเต่าที่แขวนอยู่บนชั้นสูงสุดบนกำแพงร่วงลงมาเอง

อดัมกล่าวว่า มันอาจฟังดูแปลกที่เขาเป็นเจ้าของกระดองเต่า แต่ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ในมอนทาน่า และเขาเองก็เก็บมันมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องหลอนๆ บางอย่างอีก ซึ่งจนถึงตอนนี้หลายๆ คนกำลังรอรายงานความคืบหน้าของอดัมว่าเขาจะเจออะไรแปลกๆ อีกหรือไม่ แล้วคุณล่ะ เคยเจอประสบการณ์อะไรแปลกๆ แบบอดัมบ้างหรือเปล่า